ธุรกิจร้านอาหารไทย
เผยแพร่ความสุขแบบไทยๆให้กับโลกด้วย 4 แบรนด์
เราเปิดกิจการโดยมีชื่อร้านทั้งหมด 4 แบรนด์ ได้แก่ กรุงสยาม (Krung Siam) โอลด์ไทยแลนด์ (Old Thailand) สถาบันวิจัยอาหารไทย (Thai food Laboratory) และไทยสตรีทฟู๊ด (Thai Street Food) ซึ่งแต่ละแบรนด์จะมีเอกลักษณ์ในเรื่องของสถานที่และการตกแต่งภายในที่แตกต่างกันไป โดยคอนเซ็ปของกรุงสยาม คือร้านที่อยู่ในแหล่งที่อยู่อาศัย มีการตกแต่งภายในสไตล์บ้านยุโรป โอลด์ไทยแลนด์ จะอยู่ในย่านธุรกิจ ด้านในตกแต่งเลียนแบบบ้านไทยสมัยเก่า ส่วนไทยสตรีทฟู้ด จะตั้งอยู่ในสถานที่เปิด ของตกแต่งภายในร้านมีสีสันสดใส ให้ความรู้สึกเหมือนร้านตามข้างทาง และสุดท้าย สถาบันวิจัยอาหารไทย มีจุดเริ่มต้นมาจากการใช้เป็นสถานที่ทดลองสูตรอาหาร ไม่ได้กำหนดพื้นที่ในการเปิดกิจการ การตกแต่งข้างในร้านฟรีสไตล์ ดังนั้นท่านจะได้กับบรรยากาศเหมือนเป็นสถานที่ทดลองสูตรจริงธุรกิจร้านอาหารของเรา ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การขยายยอดขายแสวงหากำไร แต่เราให้ความสำคัญกับลูกค้าทุกท่าน คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้อยู่อาศัยในบริเวณโดยรอบ พนักงาน และทุกๆคนที่มีความเกี่ยวข้องให้ได้รับความสุข และสินค้าของเราที่จะมอบความสุขให้แก่ทุกท่านคือ Quality (คุณภาพสินค้า) Service (การบริการ) Cleanliness (การรักษาความสะอาด) Hospitality (การใส่ใจในบริการ) และ Atomosphere (บรรยากาศความเป็นไทย)
ตั้งแต่เปิดร้านแรกในเดือนพฤศจิกายน ปี2004 ก็ทำให้ได้รู้จักกับเชฟที่มีความเชี่ยวชาญในอาหารไทยแท้ๆ ให้ความรู้สึกเหมือนได้เชิญเพื่อนสนิทและครอบครัวมาเที่ยวที่บ้านแบบง่ายๆ พร้อมทั้งเอาใจใส่ในการให้บริการ ซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมและบรรยากาศเหมือนอยู่ต่างแดน มีช่วงเวลาที่รู้สึกตื่นตาตื่นใจอย่างกับได้เที่ยวอยู่เมืองไทยเราให้ความสำคัญกับรสชาติความอร่อย (Quality) เหนือสิ่งอื่นใด โดยมีความคิดที่ว่า ลูกค้าไม่ได้มองหาการเปลี่ยนแปลง แต่ลูกค้ามองหาความก้าวหน้าต่างหาก ดังนั้นแทนที่เราจะขายสินค้ายอดฮิตใหม่ๆ เรากลับให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าที่มีอยู่ให้อร่อยมากขึ้นในทุกๆวันด้วยการพัฒนาวัตถุดิบ พัฒนาทักษะความสามารถของเชฟ พัฒนาอุปกรณ์ทำอาหารให้ดียิ่งๆขึ้นไปแทน
ในเรื่องของวัตถุดิบนั้น เราใช้ผักที่ปลูกเองจากสวนเกษตรของเรา ซึ่งมีความสดใหม่และปลอดภัยจากสารพิษ หรือใช้ผักที่มีคุณภาพดีกว่าจากผู้บุกเบิกด้านการผลิตรายอื่น นอกจากนี้ เรายังทำการคาดคะเนยอดลูกค้าในแต่ละวันอย่างเหมาะสม แล้วจัดหา ปรุงวัตถุดิบในปริมาณที่พอเหมาะในแต่ละวันอย่างจริงจัง เพื่อที่จะได้เสิร์ฟวัตถุดิบที่สดใหม่ให้แก่ลูกค้าได้ทั้งนี้ ซอสปรุงอาหารชนิดต่างๆและการเตรียมวัตถุดิบบางอย่าง ได้รับการผลิตจากครัวกลาง คือ สู้ๆแฟคทอรี่ (SUU・SUU Factory) ซึ่งไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของงาน แต่เราต้องการให้ทุกร้านมีมาตรฐานรสชาติอาหารที่อร่อยเหมือนกันหมด
สำหรับธุรกิจร้านอาหาร สิ่งสำคัญลำดับแรกเลยคือการแสวงหาความสุขจากอาหารที่มี Quality (คุณภาพของอาหาร) Service (การบริการ) Cleanliness (ความสะอาด) Hospitality (การเอาใจใส่ในรายละเอียด) และ Atomosphere (บรรยากาศความเป็นไทย) เพื่อที่จะได้ส่งต่อความรู้สึกตื่นเด้นในขณะเที่ยวที่เมืองไทย จากความสนุกสนานร่าเริงของคนไทยและเมืองไทย ตามวิสัยทัศน์ของเรา คือ การเผยแพร่ความสุขแบบไทยๆให้กับโลก ซึ่งเป็นการอุทิศตนเพื่อสังคมในแบบของเราต่อไป
อาหารรสชาติไทยๆที่มีกลิ่นอายความเผ็ด
ประเทศไทยแบ่งออกเป็น 4 ภาคใหญ่ๆ คือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ซึ่งแต่ละภาคก็จะมีอาหารที่มีเอกลักษณ์ต่างกันไป
ภาคเหนือที่ราชวงศ์ล้านนาเจริญรุ่งเรืองนั้น อาหารโดยส่วนมากจะรสชาติเบาๆและใช้น้ำมันเยอะ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น ได้รับอิทธิพลมาจากลาวและกัมพูชา อาหารส่วนใหญ่จะมีรสชาติเค็มและเผ็ด ภาคกลางที่เป็นจุดศูนย์รวมของเมืองหลวง อาหารจะมีรสชาติออกหวาน ส่วนภาคใต้ถูกล้อมรอบไปด้วยทะเล จึงปรุงอาหารทะเลเป็นหลัก
ซึ่งอาหารขึ้นชื่อในแต่ละภาคนั้น เชฟคนไทยของเราก็ปรุงอย่างปราณีต โดยใช้ผักและสมุนไพรที่เก็บเกี่ยวมาจากการปลูกในสวนเกษตรของเราเอง และวัตถุดิบนำเข้าจากไทย เพื่อจะได้เสิร์ฟอาหารไทยรสชาติดั้งเดิมให้ท่านได้รับประทาน
เมืองที่สำคัญในภาคเหนือ คือ เชียงใหม่และเชียงราย เอกลักษณ์เฉพาะตัวของอาหารก็จะมีความมันเยอะหน่อย แต่รสชาติก็จะไม่แรง ยกตัวอย่างที่ดังๆก็มีแกงฮังเลหรือไส้อั่ว เป็นต้น ซึ่งเป็นอาหารชาววังของราชวงศ์ล้านนามาจนถึงปี1900
เมืองหลักในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ขอนแก่นและโคราช อาหารโดยส่วนมากจะมีรสเค็มและเผ็ดเป็นหลัก ซึ่งอาหารในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งคือ อาหารอีสาน โดยรสชาติอาหารส่วนมากได้รับอิทธิพลมาจากประเทศลาวและกัมพูชา ส้มตำ ลาบ ไก่ย่าง จะรับประทานพร้อมกับข้าวเหนียว ยิ่งข้าวเหนียวร้อนๆยิ่งน่ารับประทานเป็นอย่างมาก
เมืองสำคัญในภาคกลาง ได้แก่ กรุงเทพและอยุธยา อาหารในภาคกลางจะมีรสชาติไม่จัดจ้าน ออกไปทางหวานนิดๆ รับประทานคู่กับข้าวนุ่มๆลักษณะผอมยาว แถมไปที่ไหนก็มีร้านแผงลอยข้างทางเต็มไปหมด ทำให้สามารถสนุกกับอาหารที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี และยังมีเส้นก๋วยเตี๋ยวให้เลือกมากมาย เริ่มมาจากการที่คนจีนนำเข้ามาในไทย และในสมัยรัชการที่ 5 มีการพัฒนาเป็นอาหารชาววังของภาคกลางอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้
เมืองสำคัญในภาคใต้ ได้แก่ หาดใหญ่และภูเก็ต ภาคใต้นั้นถูกล้อมรอบด้วยทะเล จึงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารทะเล และเพื่อขจัดกลิ่นคาวของปลานั้นคนภาคใต้จะใช้เครื่องเทศน์ เช่น ขมิ้นเป็นหลัก รสชาติอาหารจึงมีรสเผ็ด ประชากรโดยส่วนมากนับถือศาสนาอิสลาม จึงได้รับอิทธิพลด้านอาหารมาจากมาเลเชียด้วย อาหารที่ขึ้นชื่อ ได้แก่ แกงไตปลา แกงมัสมั่น ข้าวยำ เป็นต้น
แบรนด์ที่นำมาใช้
กรุงสยาม (Krung Siam)
ท่านสามารถรับประทานอาหารรสชาติไทยแท้ๆได้ โดยมีบรรยากาศภายในร้านที่ให้ความรู้สึกเหมือนอาคารเก่าสไตล์ตะวันตกในกรุงเทพช่วงต้นปี2000 เรามีร้านให้บริการในเขตเมืองหลวงทั้งหมด 8 สาขา เช่น จิยูกะโอกะ โออิมาจิ รปปงหงิ เป็นต้น
โอลด์ไทยแลนด์ (Old Thailand)
ท่านสามารถรับประทานอาหารรสชาติไทยแท้ๆได้ โดยบรรยากาศภายในร้านจะเป็นแบบบ้านขุนนางไทยช่วงปลายปี1900 ซึ่งผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมทางฝั่งตะวันออกและตะวันตกได้อย่างประณีต ให้ความรู้สึกสบายๆเรามีสาขาให้บริการทั้งหมด 3 สาขา คือ อีดาบาฉิ ชิมบาฉิ และอิจิกาย่า
สถาบันวิจัยอาหารไทย (Thai Food Laboratory)
มีจุดเริ่มต้นมาจากการที่ต้องการพัฒนารสชาติอาหารให้มีความอร่อยมากขึ้น จึงได้จัดตั้งครัวสำหรับทดลองสูตรอาหารขึ้นที่โคมาบะโทไดไม แล้วเราก็นำความแนวคิดและชื่อนั้นมาทำเป็นแบรนด์ร้านอาหาร โดยมีสาขาอยู่ที่ชิบุย่า ชิโมะคิตะซาว่า และฟุจู และอาคาบาเนะ ทั้ง 4 สาขาให้บริการเสิร์ฟอาหารไทยแท้ๆให้กับท่าน
ไทยสตรีทฟู้ด (Thai Street Food)
เป็นร้านที่ตกแต่งสีสันสดใสไตล์ร้านข้างทาง ซึ่งอบอวลไปด้วยบรรยากาศสนุกสนานครึกครื้น มีชีวิตชีวาแบบไทยๆ มีสาขาให้บริการอยู่ที่อิเคะบุคะโระ ท่านสามารถลิ้มรสความอร่อยของอาหารไทยแท้ๆได้โดยเชฟจากเมืองไทย
ค้นหาจากแอเรีย
Toshima-ku
Bunkyo-ku
Setagaya-ku
Shinagawa-ku
Shibuya-ku
Musashino-shi
Fuchu-shi
Yokohama-shi
ค้นหาจากเส้นทางรถไฟ
- กรุงสยาม
(Krung Siam) - โอลด์ไทยแลนด์
(Old Thailand) - สถาบันวิจัยอาหารไทย
(Thai Food Laboratory) - ไทยสตรีทฟู้ด
(Thai Street Food)